เริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ต้องใช้ 3 สิ่งนี้ ย้ำว่าต้อง!? ย้ำว่าฉ่ำ!? Home / Articles / เริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ต้องใช้ 3 สิ่งนี้ ย้ำว่าต้อง!? ย้ำว่าฉ่ำ!?นี่ไม่อยากจะเกริ่นว่ายุคนี้ ยุคไหนต้องมาทำการตลาดออนไลน์ แต่ถ้าเธอจะทำธุรกิจแล้วไม่ทำออนไลน์ละก็เธอ ไม่รอดนะ มิสซิสศร ก็ลูกค้าเค้าอยู่บนออนไลน์หมดแล้ว ถ้าเราจะเอาสินค้าและบริการเราไปเจอลูกค้าแล้วละก็ ก็ต้องออนไลน์แล้วปะคะ นี่ก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะว่าจริง ๆ แล้วมันก็มีเทคนิคเล็กน้อยถึงปลานกลาง คือ 3 สิ่งนี้ถ้าไม่มีปิดร้านเลย กลับบ้านตีโป่งนอนจบ เริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ต้องใช้ 3 สิ่งนี้ ย้ำว่าต้อง!? ต้องมีขาดไม่ได้แบบสับแบบฉ่ำ และ 3 สิ่งนี้ ย้ำว่าต้อง ย้ำว่าฉ่ำ คือ1. การสร้างช่องทางขายพูดเหมือนง่ายแต่เอาจริง ๆ น่าตีทุกคนเพราะเราเน้นสวยเน้นง่ายเน้นถูก ไม่ได้เน้นปิดการขาย คิดว่าแค่มีแล้วจะคนซื้อคือผิด คือ มันคือพื้นที่ที่ลูกค้าเค้าจะเข้ามาติดต่อ ซื้อสินค้า หรือใช้บริการ เหมือนหน้าร้านเหมือนบ้านอะแม่ เดินเข้าไปต้องเจอของ เข้าใจง่าย หาแคชเชียรได้ มีแอดมินดูแล จะมาสวยอย่างเดียวไม่ได้ และช่องทางที่ควรจะสร้างมีดังนี้1.1 Social Mediaข้อดีเนื่องจากฟรี และมีลูกค้าอยู่ปริมาณมากมีรูปแบบนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าที่หลากหลายถูกใจคนไทยเพราะมี Chat Commerceข้อเสียมีการผันผวนของจำนวนการเข้าถึง ตามแต่ละ Social media เหตุการที่เจอบ่อย ๆ คือ FB ปรับลดการมองเห็นต้องสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องเพราะเราต้องเดินตามหาลูกค้ากลับเข้ามาในเพจลูกค้าทักเยอะเพื่อตรวจสอบราคา1.2 Sale Pageข้อดีสร้างง่าย ใช้งานได้ไว้ทำการตลาดบน Google Search ได้ง่ายต่อการติดต่อขอรับบริการหรือซื้อสินค้าที่มีจำนวน SKU ไม่เยอะข้อเสียไม่เหมาะกับการทำ SEO เพราะส่วนใหญ่เป็นรูปไม่สร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นเทมเพลตไม่สร้างความแตกต่างเราไม่ใช่เจ้าของจริง ๆ เมื่อมีการหยุดจ่ายค่าบริการเว็บจะหายไปด้วย1.3 Websiteข้อดีสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้โดยตรง การจัดการข้อมูลยอดขายได้การเป็นเจ้าของ เหมาะกับการสร้างแบรนด์ ขายได้ 24/7ทำการตลาดได้ทุกรูปแบบข้อเสียราคาสูง การดูแลมีราคาสูงระบบเปลี่ยนเรื่อย ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของ Users1.4 Marketplace (Lazada, Shopee, etc.)ข้อดีUsers ที่อยู่ใน App พร้อมซื้อของอยู่แล้วขายของได้ 24/7ทำการตลาดได้ทุกรูปแบบ ยกเว้น SEO, CRMข้อเสียเราไม่ใช่เจ้าของข้อมูลลูกค้าทั้งหมดการแข่งขันสูงและมี ของปลอมด้วยมีค่า GP2. พาคนมาซื้อเหมือนง่ายแต่ รูปนี้พอสำหรับการพาคนมาซื้อทำ 3 ช่องทางนี้ Push Marketing, Pull Marketing, และ Organic Marketing เริ่มเลออ2.1 Push Marketing “การสื่อสารสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มเป้าหมาย”Goal: เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวงกว้าง เหมาะกับการเป็นที่รู้จัก การมีส่วนร่วม การหาลูกค้าใหม่ ๆช่องทางการตลาด: Facebook Ads, IG Ads, TikTok Ads, Google Display Network, YouTube Ads, Linkedin Ads, Shopee Discovery Ads (ส่วนใหญ่เป็นรูปภาพ)การเลือกกลุ่มเป้าหมาย: ตามความสนใจ, อาชีพ, พฤติกรรม, เหตุการณ์สำคัญในชีวิต, และ อื่น ๆ2.2 Pull Marketing “กลุ่มผู้บริโภคมีความสนใจในสินค้าและบริการอยู่แล้ว”Goal: เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการอยู่แล้วช่องทางการตลาด: Search Engine Marketing (Google), Shopee Search Ads, Lazada Ads, Google Shopping Ads, SEOการเลือกกลุ่มเป้าหมาย: คีย์เวิร์ด (Keywords)2.3 Organic Marketing “การตลาดแบบที่เราใช้สินทรัพย์ธุรกิจออนไลน์ของเราเอง”Goal: สร้างฐานลูกค้า และการวัดผลการทำ Awarenessสินทรัพย์ที่ว่าคือBrandingWebsiteCustomer DataPlatform ออนไลน์ เช่น Facebook, Lazada, Shopeeการทำการตลาดแบบนี้คือ: การโพสรูป, ทำ VDO, เขียนบทความ, ทำ Website, Electronic Direct Mail, Chat & Live, SMS, SEO, Referral, Direct3. ปิดการขายสำหรับข้อนี้คือ เราทำการตลาดแล้ว ลูกค้าเข้าแล้ว ไม่ใช่ว่าเค้าจะซื้อ จะต้องดูที่ที่ปิดการขายอีกครั้งข้อแบบเป็น 2 แบบ3.1 ธุรกิจที่เน้นขายสินค้าถ้าเราปิดการขายแบบมี website เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย หรือ Marketplace เราแค่ดูแลให้สินค้าไม่หมด เพราะพวกนี้เป็นพื้นที่ที่ลูกค้าซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา แต่ขอทิ้งเทคนิคไว้ให้อ่านต่อ 6P Framework จะทำธุรกิจออนไลน์ทั้งที ต้องมีอะไรบ้าง3.2 ธุรกิจที่เน้นการให้บริการคุณจะเริ่มมีอาการหาคนผิด เมื่อลูกค้าทักคุณนะแต่ปิดการขายไม่ได้ และคุณจะเริ่มลงที่คนที่ใช้งบเยอะสุดซึ่งส่วนใหญ่เป้นทีมการตลาดแต่ จริง ๆ แล้วมันคือเรื่อง Sales เรามันจ้างฟรีแล้นซ์ หรือพนังงานเงินเดือนน้อย ๆ หรือ คนที่มีงานในบริษัทไม่เยอะมาตอบลูกค้าและปิดการขาย ซึ่งคนเหล่านั้นเค้าไม่ได้เรียนวิธีการที่ Sales ทำงาน ซึ่งวิธีการจะมีอยู่ 3 ข้อด้วยกันคือ การทำ Sales Script, การทำ FAQ, และการเก็บข้อมูลลูกค้า แต่จะลงเนื้อหาให้ครั้งหน้าในบทความถัดไปติดตามเลยบทสรุป3 เรื่องนี้เป้นสิ่งที่ทุกธุรกิจทำกันและใส่ใจกัน เพราะมันเป้นการส่งต่อลูกค้าในแต่ละ Touchpoint ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้เร็วที่สุด และเมื่อลูกค้าได้รับประสบการที่ดีก็จะส่งผลต่อยอดขายด้วยจำไว้เลย เริ่มต้นทำ 3 อย่าง สร้างช่องทางขาย, พาคนมาซื่อ, และ ปิดการขายสำหรับความรู้ที่ต้องการอัพเดทในวันนี้ก็มีเท่านี้นะครับ ยังไงฝากกดไลค์ กดแชร์ และเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ และพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้หากมีตรงไหนที่สงสัยก็สามารถติดต่อมาได้เลยนะครับ“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”“A better tomorrow starts today”Digital Agency Digital Marketing digitalagency foretoday marketing Previous Next
Marketing Tipsรู้แล้วได้เปรียบ! รวมสถิติ Social Media Platform 2023 ที่ส่งผลต่อการตลาด Thanjira|27 ก.ย. 2023
A NewsLINE อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ รอดหรือร่วง ช่วยแก้ปัญหาให้คนที่ส่งงานผ่านไลน์ได้มั้ย บทความนี้มีคำตอบ! Pensiri C.|27 ก.ย. 2023
A NewsFacebook Update Features ใหม่! ให้ผู้ใช้สร้างโปรไฟล์เพิ่มได้ใน Account เดียว!! Chawit P.|27 ก.ย. 2023