4 เครื่องมือแนะนำ ช่วยจัดการ Data Visualization

ที่ยุคปัจจุบันที่ทุกๆคนต่างรู้ถึงความสำคัญ และคุ้นเคยกับการทำงานกับ Data แล้ว เพื่อที่เราจะสามารถนำข้อมูลที่เรามีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็ต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบหรือใช้ในการตัดสินใจ แต่ด้วยปริมาณข้อมูลที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน การจะนำเข้ามูลมานั่งไล่ตีความก็คงเป็นเรื่องไม่สะดวกเท่าไร ดังนั้นการนำ Data เหล่านั้นมา Visualization เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานยุคปัจจุบัน

Data Visualization คือการแปลงข้อมูลต่างๆให้ออกมาในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่าย เช่น แผนภูมิ กราฟ ตาราง รูปภาพ อินโฟ หรือ อื่นๆ ซึ่งทำให้การนำเสนอข้อมูลออกมาเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าข้อมูลนี้ต้องการเสนออะไร และจุดเด่นคืออะไร เป็นต้น ซึ่งในที่นี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถ Data Visualization ได้ง่ายๆ ขอแค่มีความรู้พื้นฐานเรื่อง Data ก็สามารถเรียนรู้การใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้

1. Google Data Studio

เป็นหนึ่งในเครื่องมือ Data Visualization ที่คนใช้กันเยอะที่สุด เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเลย และเป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะเป็นเครื่องมือจาก Google ที่สามารถดึงข้อมูลจากproduct อื่นของ Google มาใช้ได้ง่ายๆ ที่สำคัญเลยคือใช้งานฟรี สามารถแชร์ไฟล์ผ่าน Email และทำงานร่วมกับทีมคนอื่นๆไปพร้อมๆกันได้ด้วยนะ

ข้อดี

ใช้งานฟรี เข้าถึงได้ง่าย

หลายๆเครื่องมืออาจจะต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่ว่า สำหรับ Google Data Studio นั้น ใช้งานฟรีๆกันไปเลย และยังเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วยนะ ไม่ว่าใครก็ใช้ได้ ไม่ต้องหาโปรแกรมดาวน์โหลดให้วุ่นวาย เพียงแค่มีบัญชี Gmail ก็เริ่มต้นการใช้งานได้ทันที

สามารถแชร์และทำงานร่วมกับคนอื่นได้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เครื่องมือของ Google นั้นสะดวกต่อการทำงานหลายๆคนมาก เราสามารถทำงานไปพร้อมๆกันได้ในเวลาเดียวกันเลย เปรียบเป็น Live Dashboard ที่ข้อมูล real time มากๆ และยังสามารถแชร์ผ่าน Email ได้อีกด้วย

เหมาะสำหรับมือใหม่

มี Dashboard Template มากมายให้เลือกใช้ ดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับการใช้งานได้กับ Report หลายหลายประเภท และยังสามารถปรับแก้ไขได้ง่ายๆด้วยนะ

2. Excel

Microsoft Excel เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใครๆก็น่าจะรู้จักและเคยใช้กันมาแล้ว Microsoft Excel นั้น เป็นโปรแกรมจัดเก็บข้อมูลต่างๆในรูปแบบของตาราง เป็นโปรแกรมที่มีคนใช้งานกันมาอย่างยาวนาน และมีความสามารถพิเศษซ่อนอยู่เยอะมาก ซึ่งแน่นอนว่า สามารถทำ Data Visualization ได้เหมือนกัน โดยผ่านเครื่องมือ ที่เรียกกันว่า Pivot Table ที่สามารถแสดงข้อมูลในรูปแบที่ต้องการ และสามารถวิเคราะห์แก้ไขข้อมูลได้ทันที

ข้อดี

สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ระดับมือใหม่

เป็นพื้นที่เก็บข้อมูล พร้อมกับ การนำเสนอข้อมูล

Microsoft Excel เป็นเครื่องมือที่เอาไว้ใช้เก็บ Raw Data และยังสามารถนำเสนอข้อมูลได้ในหลายๆ รูปแบบ เช่น กราฟรูปภาพ กราฟวงกลม

3. Power BI

เป็นเครื่องมือจากฝั่ง Microsoft ที่ออกแบบมาเพื่อทำ Data Visualization โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถนำมาทำ Dashboard หรือ Report ออกมาได้สวยงามและง่ายกว่าการทำในเครื่องมือจากค่ายเดียวกันอย่าง Excel สามารถแสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้ไม่ยาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยการใช้ Excel อยู่แล้ว เครื่องมือ Power BI ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก 

เพราะใช้ภาษาเดียวกันกับ Excel ทำให้สามารถจัดการได้ตั้งแต่ข้อมูลพื้นๆไปจนถึงการใช้สูตรระดับ Advance ได้ 

ข้อดี

เครื่องมือพื้นฐานสามารถใช้งานได้ฟรี – แต่ถ้าเพื่อนๆอยากที่ใช้ Tools หรือ ฟีเจอร์เพิ่มเติม ก็สามารถจ่ายเงินรายเดือน เพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ – ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากฝั่ง Microsoft เช่น Excel , MS Office หรือจะเป็นข้อมูลจากฝั่ง Marketing เช่น Google Analytics Facebook รวมถึงสามารถเชื่อข้อมูลจาก database และ CSV File ได้ด้วย

มีความสามารถในการแปลงข้อมูลที่ทรงพลังด้วยการประมาณผล Power Query – สามารถจัดการ Clear Data จากในตัวโปรแกรมได้เลย

4. Tableau

เป็นโปรแกรมที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล สร้าง Visualization ที่เป็นที่นิยมอย่างมากอีกหนึ่งโปรแกรมในปัจจุบัน ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปใช้ได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้าน Programing ก็ได้ แค่ Drag and Drop ก็เริ่มวิเคราะห์ข้อมูลได้แล้ว

ข้อดี

สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ระดับมือใหม่จนถึงระดับ Advance

เพียง Drag and Drop ข้อมูลไปบน Shelf ตัวซอฟต์แวร์ก็จะประเมินลักษณะของข้อมูลและสร้าง Visualization ออกมาให้ทันที

แสดงผลได้ทั้ง Web Browser , Desktop และ Mobile version

สรุป

นี่คือ 4 เครื่องมือที่จะเราให้สามารถสร้าง Dashboard Report ในการนำเสนอได้ง่ายๆ และสวยงาม ซึ่งเพื่อนๆสามารถเลือกใช้เครื่องมือแต่ละตัวได้ตามความถนัดของแต่ละคน หรือตามความเหมาะสมของวิธีการเก็บข้อมูล ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เราประหยัดเวลาและสามารถนำเสนอข้อมูลที่ออกมาสวยงาม ทำความเข้าใจได้ง่าย ทำให้เราสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ง่ายขึ้น 

“A better tomorrow starts today”

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today “

Data Visualization Digital Marketing foretoday