CTC2023: อัปเดต Marketing Insight ปี 2023 นักการตลาดต้องรู้เพื่ออยู่ให้รอด!

ForeToday พามาอัปเดต Marketing Insight และเทคโนโลยีที่จะมาแรงแซงทางโค้งในปี 2023 เนื่องจากชาว ForeTeam ได้มีโอกาสไปฟัง Session Marketing Insight & Technology Trend 2023 โดยคุณ แบงค์ สิทธินันท์ Co-founder ของ Content Shifu ในงาน Creative Talk Conference 2023 เราเลยไม่พลาด นำสรุปการทำการตลาดต่างๆ ที่เหล่า Marketer ต้องรู้ มาแบ่งปันทุกคนกัน

.

มาดูกันเลยดีกว่าว่า 9 insights ที่นักการตลาดต้องรู้ เพื่อปรับตัวให้รอดในยุคนี้มีอะไรบ้าง!

  1. The rise of AI and Automation: เทคโนโลยี AI ที่เป็นที่พูดถึงมากมายในขณะนี้

เชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นเคย และเริ่มลองใช้ Chat GPT กันบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากเจ้า Chat GPT ตัวดังที่สามารถเป็นผู้ช่วยในการทำงานได้แล้ว ยังมี  AI อีกหลายตัวในท้องตลาดที่ช่วยเราทำงานได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น 

  • Bart ของ google ที่มีลักษณะการทำงานแบบเดียวกับ Chat GPT หรือ 
  • Midjourney AI สายครีเอทีฟที่สามารถช่วยสร้างภาพประกอบจากการพิมพ์ key word ลงไป 

เรียกได้ว่า AI เหล่านี้ สร้างมาเพื่อทุ่นแรงให้กับคนทำงาน แต่ตัวอย่างที่ยกมา เป็นเพียงแค่เสี้ยวนึงของอุตสาหกรรม AI เท่านั้น ยังมี AI อีกเป็นร้อยเป็นพันตัวให้เราได้สำรวจกัน ถึงขนาดที่ Bill Gates ออกมาพูดว่า AI  จะปฏิวัติโลกของเราได้เหมือนกับที่โทรศัพท์เคยทำเลยทีเดียว

แต่แน่นอนว่า เมื่อมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามา การเปลี่ยนแปลงก็ต้องเกิดขึ้นเช่นกัน การเข้ามาของ AI ทำให้ผู้คนกังวลกับเรื่อง security, privacy, และ copyright เพิ่มมากขึ้น ทางองค์กรที่ใช้ข้อมูลเหล่านี้ของผู้บริโภค จึงต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าข้อมูลของเค้าจะไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ในขณะเดียวกัน ทางองค์กรเองก็ต้องเฝ้าระวังกับ AI ที่จะนำข้อมูลของบริษัทไปใช้แบบที่ไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน

  1. Automation: การทำการตลาดแบบอัตโนมัติ

.

สมัยนี้มีแค่ข้อมูลลูกค้าอย่างเดียวไม่พอ ‘การจัดการข้อมูล’ คือสิ่งที่จำเป็นมาก หากเราไม่มีการจัดการข้อมูลที่ดี ข้อมูลลูกค้าในมือก็อาจจะถูกใช้งานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ระบบ Automation จึงเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญในปี 2023 

โดยนักการตลาดและองค์กรต่างๆต้องออกแบบการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ ทำให้มีการผูกข้อมูลกันของทุกแพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าโทรเข้ามาหา call-center ของเราเพื่อเปลี่ยนข้อมูลติดต่อ ในอดีตเราอาจจะต้องอัปเดตด้วยมือ copy and paste ข้อมูลของลูกค้าทุกคน ซึ่งเสียเวลา และมีโอกาสผิดพลาดเยอะ แต่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลแบบนี้ ระบบ automation จะมาช่วยในจุดๆนี้ ทำให้ข้อมูลของลูกค้าถูกอัปเดตโดยอัตโนมัติในทุกๆ แพลตฟอร์มที่มีข้อมูลของลูกค้าคนนั้นอยู่ ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ในการทำการตลาดครั้งต่อไป ลูกค้าคนนี้ของเราจะไม่พลาดข่าวสาร หรือข้อมูลดีๆ ผ่านทุกช่องทางการติดต่อ ดังนั้น การทำการตลาดในยุคนี้ ระบบ Automation จึงสำคัญ และควรนำมาใช้ในธุรกิจอย่างยิ่ง

  1. The fall of 3rd party data: 3rd party data กำลังจะหายไป

จากการมาของ PDPA ในช่วงกลางปี 2022 security and privacy ถูกพูดถึงกันเป็นวงกว้าง แน่นอนว่ามีหลายองกรค์ระดับโลกอย่าง Google และ Apple ได้ปรับ privacy policy ของผู้ใช้งานให้สามารถ track ข้อมูลของผู้ใช้งานได้น้อยลง และเมื่อยักษ์เปลี่ยน มดอย่างเราๆ ก็สะเทือน การเก็บข้อมูล 3rd party data ได้น้อยลง ทำให้นักการตลาด track ข้อมูลของลูกค้าแม่นยำน้อยลงไปเรื่อยๆ

  1. The rise of zero-party data and first party data: 

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว ถ้าไม่มี 3rd party data แล้วเราจะใช้ข้อมูลที่ไหนทำการตลาดละ คำตอบคือ การเก็บข้อมูลแบบ zero-party data และ first party data นั่นเอง 

  • Zero-party data: คือข้อมูลที่เป็น preference หรือข้อมูลความชอบของลูกค้าที่ยินยอมเปิดเผยให้กับบริษัทโดยตรง เป็นข้อมูลที่ลูกค้าให้กับเรา ไม่ได้แบ่งปันผ่านแพลตฟอร์มไหน เป็นข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมด้วยตัวเองผ่านช่องทาง หรือ tool ต่าง ๆ
  • First-party data: data ตัวนี้ก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Zero-party data จะต่างกันตรงลักษณะข้อมูลที่บริษัทเก็บ โดยส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่เป็นชื่อ เบอร์โทร อีเมล ของลูกค้าที่มีปฏิสัมพันธ์กับองค์กร

ข้อมูลทั้ง 2 แบบนี้ จะทำให้บริษัทยังคงทำการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะการทำการตลาดแบบ personalized marketing ต่อไปได้ในโลกที่ 3rd party data จะค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ 

  1. Going beyond typical content formats: คอนเทนต์แบบใด ถูกใจผู้บริโภค

ปีนี้นักการตลาดเห็นพ้องต้องกันว่าคอนเทนต์แบบ short video มาแรงแซงทางโค้ง เมื่อเทียบกับคอนเทนต์รูปแบบอื่น ๆ แต่นอกจาก short video แล้ว ยังมีคอนเทนต์อีกหลายรูปแบบที่นักการตลาดสามารถนำมาปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็น

  1. Interactive content: คอนเทนต์ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมด้วยได้ ยกตัวอย่างเช่น การเล่นเกมในแอพ marketplace เพื่อเก็บแต้มแลกส่วนลด เว็บไซต์รายงานผลเลือกตั้งที่ผู้ใช้งานสามารถคลิกดูข้อมูลของผู้สมัครและพรรคได้ หรือแม้กระทั้งการตั้งโพสคำถามบนเพจ facebook แล้วให้คนเข้ามาตอบ สิ่งเหล่านี้เป็น interactive content ที่ทำให้คอนเทนต์มีความน่าสนใจมากขึ้น
  2. Behind the scene content: คอนเทนต์หลังบ้าน พามาดูเบื้องหลังการทำงาน เล่าเรื่องจุดกำเนิดของแบรนด์ หรือพาทัวร์บริษัท คอนเทนต์แบบนี้ทำให้ผู้บริโภคที่รับอ่าน รับชม เกิดความสนใจในตัวแบรนด์มากขึ้น พวกเขาจะรู้สึก relate ตัวเองกับแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจในการซื้อสินค้า และบริการของแบรนด์นั้น ๆ 
  3. Content that reflect your brand’s value: คอนเทนต์ที่แสดงจุดยืนของแบรนด์ สมมุติว่าแบรนด์เราเป็นแบรนด์ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับ Equality ก็สามารถทำคอนเทนต์ที่แสดงถึงจุดยืนตรงนั้น เช่น การทำ social media post ที่เกี่ยวกับ policy ของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมระหว่างเพศ หรือแบรนด์ไหนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาจจะทำเป็นคอนเทนต์ที่โชว์ว่าบริษัทของเราใส่ใจเรื่อง sustainability เป็นต้น
  1. Martech is marvelous: จักรวาล Martech ที่ใหญ่กว่าจักรวาล Marvel

Martech คืออะไร? Martech หรือ Marketing Technology คือเครื่องมือทำการตลาดที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เรียกง่าย ๆ ก็คือ Tool ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม ซอฟแวร์ หรือโปรแกรม ที่เข้ามาช่วยทุ่นแรงเราในการทำการตลาดออนไลน์ พูดแบบนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพ แต่ถ้าบอกว่าเครื่องมือที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินผ่าน ๆ มาบ้างอย่าง Google Analytics, Facebook Business Suite, TikTok for Business, Power BI, YouTube, WordPress, Ahrefs, Mailchimp เครื่องมือเหล่านี้นี่ที่ใช้ในการทำการตลาดออนไลน์แหละ ที่ถูกเรียกว่า Martech 

source: chiefmartec

และจาก research ปี 2023 นี้ มี martech ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นด้าน ​​CRM, PR, Analytics, Social listening และอีกมากมาย รวม ๆ แล้วร่วมหมื่นตัวเลยทีเดียว เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรเหมือนจักรวาล Marvel เพราะฉะนั้นบริษัทไหนที่มีการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้แล้ว อยากให้ใช้ต่อไปเรื่อยๆ จนชินมือ และธุรกิจที่ยังไม่เริ่มใช้ ก็อยากให้ลองดู เพราะหากเรานำ martech เหล่านี้มาใช้ในการทำ digital marketing แล้วละก็ รับรองว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจแน่นอนค่ะ

  1. Emerging Ads platforms: พื้นที่โฆษณาบนโลกออนไลน์เยอะขึ้น 

สมัยก่อนถ้าให้พูดถึง Platform ที่เราสามารถซื้อโฆษณาออนไลน์ได้ คงจะมีขึ้นมาในหัวเราไม่กี่เจ้า แต่พอมาถึงยุคนี้ ที่โลกออนไลน์เฟื่องฟู คนใช้ชีวิตในโลกดิจิตอล 24/7 ก็มีพื้นที่โฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นมามากมาย ให้นักการตลาดจับจอง bidding กันได้ ไม่ว่างจะเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตที่เกิดใหม่อย่าง TikTok ก็สามารถยิงแอดได้ หรือแม้กระทั้งแพลตฟอร์มสั่งอาหารอย่าง Lineman ก็มีพื้นที่ให้ซื้อโฆษณาได้เช่นกัน ถือได้ว่าเรามีช่องทางเพิ่มขึ้นในการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นเมื่อเทียบกับแต่ก่อน

  1. The creator nation: ยุคทองของ creator และความเฟื่องฟูของ affiliate marketing

สมัยนี้ใคร ๆ ก็เป็น creator ได้ ไม่ว่าจะเป็นป้าข้างบ้าน หรือคุณครูประถมที่โรงเรียน เพราะการเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่มาพร้อมกับ creator ก็คือ Affliate marketing หรือการตลาดแบบฝากขาย แบรนด์ต่างๆ หันมาใช้โมเดลธุรกิจนี้เยอะขึ้น คือการฝาก Creator บนโลกออนไลน์ขายของ หากขายได้ก็หักเปอร์เซนให้ หากขายไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียอะไร โมเดลแบบนี้กำลังเป็นที่แพร่หลายมากในปัจจุบัน เพราะแบรนด์ไม่ต้องจ้างพรีเซนเตอร์ โดยไม่มีหลักประกันว่า เราจ้างแล้วยอดขายจะเข้ามั้ย จะเสียเงินฟรีหรือเปล่า การทำ affiliate จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการทำการตลาดออนไลน์ของธุรกิจจต่าง ๆ ที่มีผลดีกับตัวธุรกิจ และ สร้างรายได้ให้กับ creator อีกด้วย

  1. The world is moving fast but BASIC is still CLASSIC: ตามเทรนด์ได้ แต่พื้นฐานต้องแน่

ข้อสุดท้ายที่คุณแบงค์ฝากไว้คือ ไม่ว่าจะมีเทรนด์ใหม่ ๆ มายังไง การมีพื้นฐานด้านการตลาด การรู้จักลูกค้าของเรา รู้จักสินค้าของตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจควรทำให้มั่นคง เพราะการนำเทคโนโลยีใดๆ มาใช้ก็แล้วแต่ หากรากฐานของธุรกิจเรายังไม่มั่นคง ก็คงเป็นการยากที่จะใช้ tools ต่าง ๆให้เต็มประสิทธิภาพ และมุ่งสู่เป้าหมายทางธุรกิจที่เราตั้งไว้ได้


สรุปได้ว่าการทำการตลาดในปีนี้มีตัวช่วยทำงานอย่าง AI มาทุ่นแรงให้นักการตลาด มีการเปลี่ยนแปลงด้าน Data รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับ privacy ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นนักการตลาด และธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องปรับตัว นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กร ต้องหมุนตามโลกให้ทัน แต่ก็อย่าลืมทำสิ่งพื้นฐานอย่างเช่น การรู้จักลูกค้า เข้าใจในสินค้าและบริการตัวเองด้วย เพราะหากบ้านมีพื้นฐานที่ไม่มั่นคง คงเป็นการยากที่จะต่อเติมอะไรเข้าไปได้

ถ้าหากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับ Digital Marketing ก็สามารถทักมาถามทาง Foretoday ได้ทุกช่องทางเลย 

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today”

SIGN UP TO FORETODAY'S NEWSLETTER

For exclusive digital news, tips & tricks, opportunities and announcement
- plus a few surprise!

ForeToday ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า