จะออกแบบงานกราฟิกทั้งที ทำสไตล์ไหนดีนะ? เวลาที่เราจะออกแบบงาน หรือจะไปจ้างก็ตาม ปัญหาอย่างหนึ่งนั่นก็คือจะทำแนวไหนดีนะ ปัญหาโลกไม่แตกแต่สมองจะแตกแทน เราเลยได้รวบรวมส่วนหนึ่งของแนวงานกราฟิกต่างๆ ที่เคยเห็นบนอินเทอร์เน็ต แต่อาจจะไม่รู้จักชื่อมาทำความรู้จักกัน มาทำความรู้จักแนวกราฟิกต่างๆกันเถอะ Flat design เป็นการออกแบบในลักษณะ 2 มิติที่เน้นความเรียบง่ายและมีสีสันสดใส ดูสะอาดตา ด้วยการใช้รูปร่างและพื้นผิวที่เรียบๆไม่มีรายละเอียด ดีไซน์แบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มตอบสนองได้ดีและทำให้ใช้งานได้ง่าย ซึ่งจะเหมาะสมกับการใช้บนเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น หรือนำไปออกแบบสื่อโฆษณาต่างๆ และจำพวก Icon, Infographic Memphis การออกแบบโดยใช้รูปทรงเรขาคณิต ไม่ว่าจะเป็นสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม เส้น ส่วนโค้งต่างๆ ที่เน้นการจัดวางที่ไม่เป็นระเบียบ มีสีสันสดใส เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในการสร้างสรรค์งาน สามารถนำมาต่อยอดในการออกแบบเป็นลวดลายต่างๆได้ เช่น ทำเป็นแพทเทิร์น หรือวอลเปเปอร์ Typography หรือก็คือ Type+Graphicเป็นการออกแบบการจัดเรียงตัวอักษรหรือข้อความ ในการออกแบบตัวอักษรที่ดีต้องใช้เส้น สี หรือโทนที่สื่อความหมายได้อย่างชัดเจน เพราะการเลือกตัวอักษรก็มีผลกับงานเช่นกัน Pixel เป็นการออกแบบโดยใช้จุดที่มีขนาดเล็กหรือเรียกว่าพิกเซลที่รวมกันเป็นภาพขึ้นมา มักจะเห็นงานสไตล์นี้ในงานที่เกี่ยวกับเกมมือถือและเกมย้อนยุค แต่ปัจจุบันก็ใช้กันในหลากหลายงาน อย่าง Infographic Website, Print Ads, ภาพยนตร์ Glitch สไตล์การออกแบบนี้เป็นเหมือนกับเวลาโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เกิดความบกพร่องขึ้นมาหรือถูกคลื่นแทรก เช่นนั้นจึงกลายเป็นงานออกแบบสไตล์ที่ดูแปลก เท่ๆคูลๆ ไม่น้อย แต่งานสไตล์นี้จะเหมาะกับงานที่ดูลึกลับ สยองขวัญ น่าค้นหา ในทำนองนี้มากกว่า Natural เป็นการออกแบบโดยใช้ Organic Shape โดยการดึงเอาลักษณะของธรรมชาติมาใช้ เช่น ดวงอาทิตย์ ท้องฟ้า ใบไม้ เปลือกหอย เป็นต้น และรวมถึงสีสันของธรรมชาติ สีเขียว สีน้ำตาล สีฟ้า เป็นต้น โดยงานสไตล์นี้ที่เห็นบ่อยๆ มักจะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Organic, Food, Skincare Luxury จะออกแบบงานหรูหราอย่างมีระดับต้อง Luxury เป็นงานออกแบบที่นิยมมาก ในแง่ที่เน้นการสร้างงาน สร้างแบรนด์ให้ดูมีราคามากขึ้น แต่ปัจจุบันไม่ได้เน้นแค่ความหรูหรา ยังแสดงออกถึงความทันสมัยได้อีกด้วย ซึ่งปกติมักจะใช้สีที่สื่อถึงดูมีค่าราคาแพง อย่างสีทอง สีเงิน และนอกจากนี้ก็มักจะไปใช้กับพวกการ์ดงานแต่งงาน หรือบัตรเชิญต่างๆ อีกด้วย Isometric เป็นงานออกแบบแนว 3 มิติที่มีด้านเท่ากันทุกด้าน ซึ่งจะแสดงให้เห็นในมุมมองด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน และเป็นที่นิยมมาก มักจะเห็นในงาน Infographic, Interior บทสรุป สไตล์งานแต่ละแบบเวลาใช้ออกแบบงานจริงๆ ไม่จำเป็นต้องใช้แบบใดแบบหนึ่งในการออกแบบทั้งงาน เราสามารถเลือกใช้มาผสมได้ตามความเหมาะสม แต่ก็ต้องดูองค์ประกอบภาพรวมงานทั้งหมดด้วยว่าไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ เลือกใช้ได้โดยไม่ทำให้ Mood&Tone เสีย โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีงานออกแบบอีกหลายสไตล์ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง อาจจะได้กล่าวถึงในโอกาสต่อไป “A better tomorrow starts today” Line@ : bit.ly/ForeToday FB Chat : http://m.me/foretoday design graphic ออกแบบ Previous Next
Creative แม่ค้าออนไลน์ต้องอ่าน ตัวช่วยเช็คสลิปโอนเงิน และ วิธีคอนเฟิร์มออเดอร์ บนช่องทาง Facebook Pay จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!!!!! Patnarin Sriphom|29 พ.ย. 2023
Creative มารู้จักกับ “Nostalgia Marketing” การตลาดแบบ ถวิลหาอดีต Thanakorn Ngampanchathan|29 พ.ย. 2023
Creative ความสำเร็จของร้าน “Thai Food Near Me” สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการทำ SEO Kraipich J.|29 พ.ย. 2023
Creative ทำไม หนัง “สัปเหร่อ” ถึงโกยรายได้ สูงถึง 300ล้านบาท บทความนี้มีคำตอบ! Pensiri C.|25 ต.ค. 2023
Creative คันปากอย่างไร ที่จะช่วยให้ธุรกิจได้ผลลัพธ์ตามเป้า ทีมงานรักกัน ด้วยเทคนิคการให้ Feedback ชั้นเลิศ! Thanakorn Ngampanchathan|25 ต.ค. 2023