สิ่งที่เจ้าของ Page ควรทำหลังจาก Facebook ปรับ Algorithm ใหม่ Home / Articles / สิ่งที่เจ้าของ Page ควรทำหลังจาก Facebook ปรับ Algorithm ใหม่จะเห็นว่า Facebook มีความพยายามที่จะปรับและเพิ่ม Feature ใหม่ๆมาให้เราเล่นอยู่ตลอด แต่บางอันมันดันแอบไปคล้ายๆบางแอพเช่น “Stories” คลับคล้ายคลับคลาของ Snapchat หรือจะเป็นฟีเจอร์อย่าง “Reels” ที่ให้คนทำและดูคลิปสั้นๆ ก็ดันไปเหมือนเจ้า Tiktok อีกพอมาวันนี้ก็ดันออกมาบอกอีกว่าจะปรับปรุง Algorithm ครั้งใหญ่เกี่ยวกับหน้า News Feed โดยบอกว่าจะปรับปรุงเพื่อให้สามารถนำเสนอ Content ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น จนเจ้าของเพจต่างๆต้องร้องโอดครวญกันเลยทีเดียว ทำไมต้องร้องกันน่ะเหรอ? ก็เพราะหลังจากปรับเปลี่ยน Algorithm ใหม่แล้ว มันมีผลทำให้ Post ที่มาจากเพจต่างๆมีคนเห็นน้อยลงน่ะสิ! ไม่ว่าเพจจะสร้าง Content ดีแค่ไหนเพื่อเรียกยอด Like Share และ Comment เจอแบบนี้ก็ร้องสิ แถมถ้ายิ่งจ่ายเงินซื้อโฆษณากับทาง Facebook เพื่อหวังจะให้คนเค้ามามี Engage กับเพจแล้วละก็แทบจะอยากปิดเพจกันเลยทีเดียวแต่วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก softbankthai.com ที่สรุปทริคและการคำนวนคะแนนต่างๆที่เจ้าตัว Algorithm ใช้ในการหา Content มาแสดงบน News Feed ของเรา ซึ่งมีสูตรตามนี้New Feed Visibility = I x P x C x T x R โดยตัวอักษรแต่ละตัวคือInterest (I) คือ ความสนใจของ User ที่มีต่อ Page โดยจะดูจากจำนวน Like , Share , Comment และ Click ในตัว PagePost (P) คือ ความ Popular ของ Post ปัจจุบันต่อคนที่เห็น Post แล้วCreator (C) คือ ความ Popular ของ Post ในอดีตใน Page ที่มีต่อคนดู โดยดูจาก Like , Share , Comment และ Click ในตัว Post ต่างๆType (T) คือชนิดของ Post ที่ตรงกับ Post ที่คนดูชอบในอดีต จำพวกข้อความปกติ รูปภาพ วีดิโอ หรือ ลิ้งค์ ว่าตรงกับความสนใจของคนดูในอดีตแค่ไหนRecency (R) คือ ความปัจจุบันของ Post หรือ ช่วงเวลาของ Post นั้นเองว่าโพสต์ไปเมื่อไร นานรึยังฝั่ง Organic และ Paid Content ควรปรับตัวยังไงสิ่งที่เจ้าของเพจจะต้องโฟกัสในตอนนี้ หัวใจหลักคือเรื่อง Content เป็นหลักเลย จริงๆการทำเพจ Facebook ที่ผ่านมา Content ก็เป็นหัวใจสำคัญอยู่แล้ว แต่ณ ปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่ายิ่งสำคัญมากกว่าเดิมแบบสุดๆ เพจต้องมีเนื้อหาที่โดดเด่นและตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มคุณภาพเพจ และดันโพสต์ให้ขึ้นไปอยู่ในลำดับต้นๆ ใน News Feed ผู้ใช้งานให้ได้ เพจไหนที่สามารถสร้างความบันเทิงใน Content ได้มากเนี่ยยิ่งได้เปรียบ สังเกตว่ายอด engage ของเนื้อหาเกี่ยวกับความบันเทิง จะมียอดที่ค่อนข้างสูงแล้วแบรนด์ไหนที่พึ่งแค่ Organic content อย่างเดียวอาจจะต้องคิดใหม่แล้ว เพราะว่ายอด Reach อาจจะมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างคาดเดาไม่ได้ เป็นผลมาจาก Algorithm ใหม่นั่นเองการมี Paid Content เพื่อช่วยการันตีการเข้าถึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาทำอย่างยิ่งด้าน Organic Content1.แคปชั่น (พูดถึงทั้ง โพสทั่วไป คลิปวิดิโอ reels และอื่นๆ)ความยาวของแคปชั่นเป็นสิ่งสำคัญ ต้องยาวพอดีๆ ไม่สั้นเกินไปจนรายละเอียดไม่ครบถ้วน และไม่ยาวเกินไป อีกอย่างคือ ควรโพสให้ในแคปชั่นมีคีย์เวิร์ดที่ต้องการสื่อไปยังผู้อ่านให้เหมือนเดิมในทุกๆโพส ไม่ควรเปลี่ยนรูปแบบคำของแคปชั่นไปเรื่อยๆ รวมถึง Hashtag ดวยนอกจากนี้ เนื้อหาในแคปชั่นต้องน่าดึงดูดพอที่เวลาเราอ่านไปจนถึง see more แล้วต้องทำให้เรากด see more เพื่ออ่านต่อให้ได้ จุดนี้สำคัญต่อ Algorithm ตัวใหม่ด้วย เป็นสิ่งที่ Facebook ใช้วัดความสนใจของคนทั่วไปต่อ content ของเรา2.Creativeเมื่อ Facebook มีการปรับ Algorithm ให้เน้นแสดงคอนเทนต์ตามความสนใจของผู้ใช้งาน ดังนั้นเนี่ยเราสามารถใช้หลักการยิง Facebook Ads มาใช้ได้เลย ตัวอย่างเช่น รูปภาพต้องดึงดูดสายตา มี key message ชัดเจน ตัวหนังสือไม่ควรเยอะเกิน 20% ของรูปภาพทั้งหมด3.ความเป็นแบบเเผนและความสม่ำเสมอสมมติว่าเพจมีคอนเทนต์หลายหมวกหมู่ เช่น เพจของกิน มีคอนเทนต์เกี่ยวกับร้านอาหารสตรีทฟู้ด ร้านคาเฟ่ ร้านอาหารหรูๆในโรงแรม ควรที่จะให้คอนเทนต์แต่ละกลุ่มมีแบบเเผน มีสไตล์ของการใช้ key message ที่ชัดเจน จะทำให้รูปแบบและภาษาไม่ต่างกันมาก ไม่อย่างนั้น Algorithm อาจแสดงผลไม่ซ้ำคนไปเรื่อย ๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่รู้จักหรือเห็นเราน้อย สุดท้ายร้านเราไม่ติดตลาดบน Facebook สักที แต่ถ้าเกิดเพจมีหมวดหมู่เดียวเดียวก็ไม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้มาก เพียงแต่ว่าต้องใส่ใจในการโพสอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาๆเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญต่อ algorithm ใหม่ของ Facebookข้อดีคือ แบรนด์มีโอกาสในการ Discover new users มากยิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียคือ จำนวน Reach ที่อาจลดลงสำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ เพราะว่าจำนวน Followers ที่มากไม่ได้การันตีว่าคอนเทนต์จะไปแสดงผลบน Feed ของพวกเขาอีกแล้วด้าน Paid Contentข้อควรตระหนักของนักทำการตลาดออนไลน์เลยคือ เมื่อFacebook ปรับลดการเข้าถึงของเพจลง หันไปเน้นคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึง Reels ที่พยายามผลักดันให้ขึ้นมาอยู่หน้า feed ถี่มากขึ้น มีโอกาสกระทบเรื่องของ Ads Spend ที่เราต้องจ่ายเงินเพื่อโฆษณามากยิ่งขึ้นเพื่อการันตีการเข้าถึงผู้คนสรุปแล้วข้อดีของ Algorithm ใหม่ก็คือ แบรนด์มีโอกาสในการ Discover new users มากยิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียคือ จำนวน Reach ที่อาจลดลงสำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ เพราะว่าจำนวน Followers ที่มากไม่ได้การันตีว่าคอนเทนต์จะไปแสดงผลบน Feed ของพวกเขาอีกแล้วLine@: bit.ly/ForeTodayFB Chat: http://m.me/foretoday“A better tomorrow starts today “#Foretoday #digitalagency #marketing #Ecommercecontent Digital Marketing Facebook foretoday marketing Previous Next
Marketing Tipsพามารู้จัก Instagram Bio Links สำหรับร้านค้าและชาวครีเอเตอร์ [email protected]|30 ส.ค. 2023
A Newsไม่เลือกงาน ไม่ยากจน! แค่โพสก็ได้ตัง สมัคร X Premium (Twitter Blue) แล้วมีรายได้จริงรึป่าว? บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดให้ฟังกัน Pensiri C.|30 ส.ค. 2023