Performance Max อีกหนึ่งรูปแบบแคมเปญของ Google ที่ไม่ควรมองข้าม Home / Articles / Performance Max อีกหนึ่งรูปแบบแคมเปญของ Google ที่ไม่ควรมองข้ามPerformance Max หรือ P.Max เป็นผลิตภัณฑ์ในการทำโฆษณาช่องทางใหม่ของ Google ซึ่งความพิเศษของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ คือ Performance Max จะแสดงผลทั้งบน YouTube, Display Network, Discovery Ad และ Gmail ซึ่งจากข้อมูลทางสถิติของทางกูเกิล พบว่าบัญชีที่หันมาลงโฆษณาผ่าน Performance Max มีแนวโน้มที่จะได้รับจำนวน Conversion เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 13% โดยใช้ต้นทุนในการลงโฆษณาที่ใกล้เคียงกับวิธีการเดิม เนื่องจาก P.Max ได้ถูกออกแบบมารองรับพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภค ที่นับวันก็จะมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นทาง ForeToday จึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงหลักการทำงาน และวิธีการตั้งค่า Performance Max กันครับการทำงานของ Performance Max (ระบบ Optimize ยังไง?)Performance Max จะนำ machine learning มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำโฆษณา โดยระบบจะให้เราเลือก objective ที่ต้องการเลือก objective เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ของแคมเปญจากนั้น P.Max จะทำการบริหารงบประมาณให้เหมาะสมในแต่ละช่องทางโดยดูจาก Performance ของแต่ละช่องทาง (Channel ไหนให้ผลตอบรับดีตาม objective ที่ตั้งไว้ ก็จะได้รับการจัดสรรงบประมาณมากกว่าเพื่อน) ซึ่งการทำโฆษณาผ่านวิธีนี้จะมีข้อดีตรงที่ระบบจะช่วยหา Audience ให้ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมในการเสพสื่อออนไลน์ที่เปลี่ยนไปอย่างสม่ำเสมอ การที่ระบบของ Performance Max ช่วยบริหารงบประมาณให้แบบเรียลไทม์ด้วย Machine Learning จะทำให้เราสามารถส่งโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมายได้อย่างตลอด ไม่ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปแบบไหนก็ตาม (ก็คือเราไม่ต้องเหนื่อยเพื่อหาว่ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ไหน ยิงกวาดทุกช่องทางไปเลย เดี๋ยวน้อง P.Max เกลี่ยงบประมาณให้ ช่องทางไหนเวิร์ค เดี๋ยวเงินก็ไปลงที่ช่องทางนั้นเอง)Performance Max จะสามารถทำนายได้ด้วยว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละคนมีแนวโน้มที่จะชอบ Ad แบบไหน ซึ่งตรงนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Responsive Search Ad กล่าวคือระบบจะนำ Text, Image และ Video ที่เราป้อนเข้าไปตอนตั้งค่า ไปยำๆรวมกัน แล้วแสดงผลให้มีหน้าตาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละคนกรณีที่โฆษณาไปแสดงผลบน YouTube หากเราไม่ได้อัพโหลดวีดิโอขึ้นไป P.Max ก็จะช่วย Generate VDO ขึ้นมาให้เราด้วย ซึ่งวีดิโอดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นมาจาก Text กับ Image ที่เราใส่เข้าไปตอนตั้งค่าแคมเปญนั่นเองครับ เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆไปเลยแหละลักษณะการทำงานของ Performance max เทียบกับแคมเปญปกติเห็นได้ว่า การรันโฆษณาบน Performance Max ค่อนข้างที่จะสะดวกมากๆ เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องปรับค่าอะไรมากมาย (ก็คือตั้งค่าครั้งเดียว สามารถรันโฆษณาได้หลายช่องทาง มั่นใจได้ว่าไม่ได้โยนกลุ่มเป้าหมายบางส่วนทิ้งไป แบบว่าเก็บครบแน่นอน) แถมไม่มีไฟล์ VDO ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้องสร้างให้ เอากับเขาสิ!! ทีนี้หัวข้อถัดไป เดี๋ยวผมจะพาทุกคนไปลองตั้งค่าแคมเปญ Performance Max แบบทีละขั้นตอนกันครับผมสิ่งที่ต้องมีก่อนรันแคมเปญ Performance MaxConversion Tracking (เพื่อ Track ว่ามี conversion เกิดขึ้นไหม?)Creative Assets เช่น Text, Logo, Image, Video Image : ควรมีขั้นต่ำ 5 รูป ขนาดไม่เกิน 5120KB– Landscape : 1200*628 หรือ 600*314 px– Square : 300*300 หรือ 1200*1200 px– Portrait : 480*600 หรือ 960*1200 pxLogo ขนาดไม่เกิน 5120KB– Square : 128*128 หรือ 1200*1200 px– Landscape : 512*128 หรือ 1200*300 pxVideo (มีหรือไม่มีก็ได้ ถ้าไม่มี Pmax จะสร้างให้)– Horizontal, Vertical, SquareTarget Signalsระบบจะเลือก Target ให้แบบ Autoเราสามารถเพิ่ม Target ได้เองแบบ Google Display Network (Custom Audience, Custom Intent)Location : เลือกว่าจะยิงโฆษณาไปที่ไหนบ้างProduct Feed (อันนี้เป็น optional มี/ไม่มี ก็ได้)Best practice สำหรับการรัน Performance maxBudget ควรตั้ง daily budget ไว้ที่ 3-10 เท่าของ CPA ที่เราทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ เพราะธุรกิจแต่ละประเภทก็จะมี performance ย้อนหลัง ที่มากน้อยต่างกันออกไปCreativeจะต้องดีไซน์ให้มี Creative ให้ครบที่เหมาะสมกับทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Youtube, GDN, Discovery และควรมี call to action และ key message ที่ชัดเจนอยู่ในนั้นด้วยAudiencePerformance max มีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Audience signal เราควรใส่ remarketing audience list หรือพวก first party audience เข้าไป เพื่อช่วยตัว machine learning ให้เรียนรู้ได้ไวและมีประสิทธิภาพแม่นยำขึ้นConversionควรจะต้องมี conversion ย้อนหลัง 28 วัน หรือราวๆ 1 เดือน มากกว่า 50 conversion ขึ้นไปข้อควรรู้สำหรับ Performance maxPerformance max ต่างกับ smart campaign ยังไงPerformance max มี Inventory มากกว่า Smart campaignสำหรับ Smart campaign จะมีแค่ search ad กับ display ad และ local campaign แต่ Performance max จะมี youtube และ discovery ad เพิ่มขึ้นมาด้วย และ Performance max มี value based bid strategy ต่างกับ Smart campaign ที่มีแค่ conversion based Performance max เหมาะกับธุรกิจแบบไหนเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการ scale up lead และธุรกิจอยู่ในเฟสที่ต้องการเพิ่มยอดขายมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่มีฐานลูกค้าเก่าหรือมี Brand awareness มาประมาณนึงแล้วหากต้องการปรึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อทีมงาน ForeToday ได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยนะครับ 🙂Line@ : bit.ly/ForeToday FB Chat : http://m.me/foretoday “A better tomorrow starts today”Referencehttps://support.google.com/google-ads/answer/11335596?hl=thhttps://support.google.com/google-ads/answer/10724817?hl=enDigital Marketing digitalagency Google Ads marketing Previous Next
A NewsLINE อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ รอดหรือร่วง ช่วยแก้ปัญหาให้คนที่ส่งงานผ่านไลน์ได้มั้ย บทความนี้มีคำตอบ! Pensiri C.|27 ก.ย. 2023
A Newsไม่เลือกงาน ไม่ยากจน! แค่โพสก็ได้ตัง สมัคร X Premium (Twitter Blue) แล้วมีรายได้จริงรึป่าว? บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดให้ฟังกัน Pensiri C.|30 ส.ค. 2023
ArticlesCTC2023: อัปเดต Marketing Insight ปี 2023 นักการตลาดต้องรู้เพื่ออยู่ให้รอด! Anna L|07 ก.ค. 2023
Marketing TechCustomer Retention Strategy : กลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่หรือรักษาฐานลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำๆ First Nutchnon|07 ก.ค. 2023